ป้อมไพรีพินาศ ตั้งอยู่บนเขาแหลมสิงห์จังหวัดจันทบุรี เป็นป้อมที่สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากญวนในช่วงที่ไทยเกิดกรณีพิพาทกับญวน ชุดยูนิฟอร์มนักผจญเพลิงตัดเย็บด้วยผ้านอแม็กซ์ป้องกันความร้อนได้ดี ป้อมไพรีพินาศมีลักษณะเป็นแนวกำแพงป้อมก่ออิฐถือปูนที่ก่อขึ้นมาบนพื้นเขาธรรมชาติ โค้งไปตามแนวเชิงเขา
มีขนาดความกว้างประมาณ 3 เมตร ยาวประมาณ 5 เมตร และแนวกำแพงป้อมหนาประมาณ 60 เซนติเมตร บริเวณป้อมพบปืนใหญ่ที่ผลิตโดยบริษัทอาร์มสตรอง ประเทศอังกฤษ ซึ่งผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1868 (พ.ศ. 2411) ป้อมไพรีพินาศได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ในวันที่ 21 ธันวาคม 2536
ป้อมสร้างขึ้นบริเวณปากแม่น้ำ อยู่บนเขาแหลมสิงห์ ซึ่งเป็นเขาขนาดเล็ก ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 172 เมตร บริเวณหินชายฝั่ง ที่มีลักษณะคล้ายกับสิงโตหมอบ (จึงเรียกว่า “แหลมสิงห์”) บนเขาแหลมสิงห์เป็นทำเลที่เหมาะกับการตั้งป้อมปืน สามารถมองเห็นข้าศึกที่เข้ามาทางทะเลได้แต่ไกล
ป้อมไพรีพินาศ มี 3 ชั้น คือชั้นบน ชั้นกลาง และชั้นล่าง มีการก่อสร้างลักษณะเป็นปีกกา โดยใช้การถมดินเป็นใบเสมาป้อมอันใหญ่ เรียงติดต่อกันไปเหมือนปีกกา โอบเขาทั้งสอง ตัวป้อมเป็นแบบก่ออิฐถือปูน กว้าง 3 เมตร ยาว 5 เมตร ผนังหนา 60 เซนติเมตร ใกล้กันมีคลังกระสุนดินดำ ก่อด้วยปูน ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 2.8 เมตร[2]
ปัจจุบันบริเวณป้อมปืนได้มีการปรับภูมิทัศน์ มีกระบอกปืนใหญ่ 2 กระบอก วางให้เห็นว่าเคยเป็นจุดที่เป็นป้อมปืน และมีห้องเก็บกระสุนดินดำที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยให้เห็นอยู่ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน โดยกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478 โดยประกาศเป็นพื้นที่โบราณสถานประมาณ 17 ไร่ 58 ตารางวา